ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ (9 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มการเงินที่ปรับตัวขึ้นหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้น ขณะที่นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อและการขยายตัวทางเศรษฐกิจหลังจากราคาน้ำมันปรับตัวลง นอกจากนี้ การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนได้ช่วยหนุนตลาดด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,190.72 จุด พุ่งขึ้น 226.61 จุด หรือ +3.25%
หุ้นกลุ่มธนาคาร, กลุ่มประกัน และกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์นำตลาดปรับตัวขึ้น ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2562 และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีทะยานขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งหนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร พุ่งขึ้น 5.4%
หุ้นพรูเดนเชียล ทะยานขึ้น 8.6% หลังเปิดเผยผลกำไรจากการดำเนินงานในปี 2564 เพิ่มขึ้น 16% แม้เตือนว่าการทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดทั่วโลก
หุ้นยูนิลีเวอร์ พุ่งขึ้น 2.9% หลังเป็นบริษัทใหญ่รายแรกของยุโรปที่ยุติการนำเข้าและส่งออกสินค้าจากรัสเซียหลังจากบุกโจมตียูเครน
หุ้นอิมพีเรียล แบรนด์ส ซึ่งผลิตยาสูบเข้าร่วมถอนธุรกิจออกจากรัสเซีย และบริษัทบริติช อเมริกัน โทแบคโคเปิดเผยว่า ได้ระงับการลงทุนทั้งหมดในรัสเซีย
หุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการปรับตัวขึ้นนำตลาดด้วย
นอกจากนี้ การรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนช่วยหนุนตลาด โดยหุ้นลีเกิล แอนด์ เจเนอรัล ซึ่งเป็นบริษัทประกัน พุ่งขึ้น 6.0% หลังรายงานผลกำไรจากการดำเนินงานในปี 2564 พุ่งขึ้น 11% สู่ระดับ 2.26 พันล้านปอนด์ (2.96 พันล้านดอลลาร์) เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวจากโรคโควิด-19 ระบาด
หุ้นโพลีมีทัล อินเตอร์เนชันแนล ทะยานขึ้น 69.2% หลังเปิดเผยว่า การดำเนินงานของเหมืองแร่ในรัสเซียยังคงไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตยูเครน
ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงเกือบ 2% สวนทางตลาด หลังราคาน้ำมันร่วงลง 5% แต่ได้ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ