ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันจันทร์ (14 มี.ค.) ขานรับความหวังเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งช่วยหนุนบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นทั่วโลก
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,193.47 จุด เพิ่มขึ้น 37.83 จุด หรือ +0.53%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกหลังการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มประกันนำตลาดปรับตัวขึ้น
หุ้นกลุ่มการเงินนำตลาดปรับตัวขึ้น ขณะที่หุ้นริโอ ทินโต ร่วงลง หลังเสนอซื้อหุ้นที่เหลือของบริษัทเทอร์คอยซ์ ฮิลล์ของแคนาดา
แต่หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ ร่วงลง 1.6% และ 5.0% ตามลำดับ โดยปรับตัวลงตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ร่วงลง
นักลงทุนมีความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น หลังจากที่ทั้งรัสเซียและยูเครนต่างประเมินแนวโน้มการเจรจาในเชิงบวก โดยเจ้าหน้าที่รัสเซียรายหนึ่งระบุว่า อาจมีการร่างข้อตกลงกันในเร็ว ๆ นี้
นักลงทุนจะจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ
บริษัทฟุตซี รัสเซลล์เปิดเผยว่า จะตัดหุ้นเอฟราซ, หุ้นโพลีมีทัล อินเตอร์เนชันแนล, หุ้นปิโตรพาฟลอฟสก์ และหุ้นราเวน พรอพเพอร์ตี กรุ๊ป ออกจากการคำนวณดัชนี หลังจากการซื้อขายหุ้นดังกล่าวได้รับผลกระทบจากการที่บริษัทโบรกเกอร์ชั้นนำจำนวนมากปฏิเสธที่จะซื้อขายหุ้นของบริษัทดังกล่าวซึ่งเน้นทำธุรกิจในรัสเซีย