ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันอังคาร (15 มี.ค.) โดยหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์นำตลาดร่วงลงท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากการที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นในจีน นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการเข้าซื้อหุ้นก่อนเสร็จสิ้นการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามมา
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 435.12 จุด ลดลง 1.23 จุด หรือ -0.28%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,355.00 จุด ลดลง 14.94 จุด หรือ -0.23%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,917.27 จุด ลดลง 11.84 จุด หรือ -0.09% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,175.70 จุด ลดลง 17.77 จุด หรือ -0.25%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง หลังบวก 2 วันติดต่อกันจากความหวังเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ร่วงลง 2.1% และหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ ลดลง 0.1% เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดิ่งลงมากกว่า 7% และราคาโลหะอุตสาหกรรมลดลงจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ลดลงจากจีนซึ่งเป็นประเทศผู้ใช้รายสำคัญ หลังจากยอดติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้น
นิค เนลสัน นักวิเคราะห์หุ้นยุโรปของยูบีเอสระบุว่า "หุ้นที่เกี่ยวกับจีน อาทิ วัสดุพื้นฐาน, เหมืองแร่และโลหะ, การก่อสร้างที่อยู่อาศัย และหุ้นสินค้าหรูหรา ปรับตัวลงหลังจากจีนออกมามาตรการล็อกดาวน์พื้นที่บางส่วน"
"ตลาดวิตกเกี่ยวกับผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และอุปสงค์สินค้าของบริษัทยุโรปที่ขายให้กับจีน"
หุ้นหลุยส์วิตตองของฝรั่งเศสซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากจีน ร่วงลง 1.5%
หุ้นโพรซัสของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีหุ้นอยู่ในบริษัทเทนเซ็นต์ของจีน ร่วงลง 6.6% ท่ามกลางความอ่อนแอของหุ้นเทคโนโลยีของจีน
ตลาดถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันพุธนี้ และคาดว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดีนี้ด้วย
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังปรับตัวลงหลังศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีดิ่งลงสู่ระดับ -39.3 ในเดือนมี.ค. จากระดับ +54.3 ในเดือนก.พ. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ +10.0
หุ้น H&M ของสวีเดน ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกแฟชั่นรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก ร่วงลง 3.2% หลังรายงานยอดขายไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นตามคาด
หุ้นแมทช์ ซึ่งผลิตผลิตภัณฑ์ยาสูบและนิโคตินของสวีเดน ร่วง 4.2% หลังตัดสินใจระงับแผนที่จะแยกกิจการและนำหุ้นธุรกิจซิการ์ในสหรัฐเข้าจดทะเบียน