ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 400 จุด ใกล้ทะลุแนว 34,000 จุดในวันนี้ โดยตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดีดตัวขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้
ณ เวลา 20.39 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,950.83 จุด บวก 406.49 จุด หรือ 1.21%
ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นทุกกลุ่ม นำโดยกลุ่มธนาคาร
ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นเกือบ 600 จุดวานนี้ โดยได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ หลังราคาน้ำมันร่วงลงต่ำกว่า 100 ดอลลาร์/บาร์เรล และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐขยายตัวต่ำกว่าคาด
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน และนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย ต่างส่งสัญญาณความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพ
"การทำข้อตกลงกับรัสเซียในการยุติสงครามในยูเครนเริ่มใกล้ความจริงมากขึ้น" ปธน.เซเลนสกีกล่าว
"เราต่างก็ต้องการสันติภาพ และยังจำเป็นต้องใช้ความพยายามในการยุติสงคราม โดยผู้แทนการเจรจาของเราต้องใช้ความอดทนและต้องทำงานหนัก"
"สิ่งนี้เป็นเรื่องยาก แต่มีความสำคัญ เพราะสงครามใดๆ ก็ต้องจบลงที่การทำข้อตกลง โดยการประชุมจะยังคงดำเนินไป และผมได้ยินมาว่าจุดยืนในการเจรจาเริ่มใกล้ความจริงมากขึ้น แต่เรายังต้องใช้เวลาในการตัดสินใจเพื่อผลประโยชน์ของยูเครน" ปธน.เซเลนสกีกล่าว
ถ้อยแถลงของปธน.เซเลนสกีสอดคล้องกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งแสดงความหวังต่อการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
"ผมมองเห็นความหวังที่รัสเซียและยูเครนจะสามารถประนีประนอมในการเจรจาสันติภาพ" นายลาฟรอฟกล่าว
"มีการหารือกันอย่างจริงจังในประเด็นที่ยูเครนต้องมีสถานะเป็นประเทศเป็นกลาง รวมทั้งประเด็นด้านความมั่นคงอื่นๆ โดยทั้งสองฝ่ายกำลังใกล้ได้ข้อตกลงเกี่ยวกับสูตรบางอย่างแล้ว" เขากล่าว
ทั้งนี้ การเจรจาสันติภาพรอบที่ 4 ระหว่างยูเครนและรัสเซียจะดำเนินต่อไปเป็นวันที่ 3 ในวันนี้ หลังจากที่การเจรจา 2 วันก่อนหน้านี้ได้ยุติลงโดยไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 2 ในปีนี้
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนนี้ ซึ่งไม่รุนแรงเหมือนกับที่นักวิเคราะห์บางรายคาดว่าจะปรับขึ้น 0.50%
หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ตามที่มีการคาดการณ์ไว้ ก็จะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดนับตั้งแต่ปี 2561
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4%
ยอดค้าปลีกที่ต่ำกว่าคาดดังกล่าวได้รับผลกระทบจากยอดค้าปลีกออนไลน์ที่ดิ่งลง 3.7%
อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับตัวเลขยอดค้าปลีกในเดือนม.ค.เป็นพุ่งขึ้น 4.9% จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้น 3.8%
เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 17.6% ในเดือนก.พ. โดยได้แรงหนุนจากยอดขายน้ำมันในสถานีบริการน้ำมัน