ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนบวก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในปีนี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 26,529.89 จุด พุ่งขึ้น 767.88 จุด หรือ +2.98%, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,252.96 จุด เพิ่มขึ้น 82.25 จุด หรือ +2.59% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 21,250.97 จุด ทะยานขึ้น 1,163 จุด หรือ +5.79%
คณะกรรมการเฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 0.25-0.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเฟดระบุว่า สงครามในยูเครนและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้สร้างความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งในระยะใกล้ ปัจจัยดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะเพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อและเป็นปัจจัยถ่วงเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 6 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งหมายความว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมทุกครั้งหลังจากนี้ และจะทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ระดับ 1.75-2.00% ในปลายปีนี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่รายงานไปแล้ว สำนักงานสถิติแห่งชาตินิวซีแลนด์เผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2564 ขยายตัว 3.0% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส เนื่องจากรัฐบาลผ่อนปรนมาตรการสกัดโควิด-19 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์บ่งชี้ว่า ข้อมูลดังกล่าวหนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางนิวซีแลนด์จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก
ทั้งนี้ GDP ไตรมาส 4 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ยของนักเศรษฐศาสตร์ที่ระดับ 3.2% และพลิกฟื้นจากการหดตัวลง 3.6% ในไตรมาส 3/2564 ซึ่งเป็นช่วงที่การบังคับใช้มาตรการสกัดโควิด-19 ได้จำกัดกิจกรรมเศรษฐกิจของประเทศ