ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตาวิกฤตระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ จะหารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในวันนี้เกี่ยวกับประเด็นความขัดแย้งดังกล่าว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 26,724.06 จุด เพิ่มขึ้น 71.17 จุด หรือ +0.27%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 20,988.53 จุด ลดลง 512.70 จุด หรือ -2.38% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,208.00 จุด ลดลง 7.05 จุด หรือ -0.22%
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย ขณะที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ จะหารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีนในวันนี้เกี่ยวกับการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน
นอกจากนี้ นายจอห์น บาร์ราสโซ วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกันของสหรัฐได้เสนอร่างกฎหมายระงับการนำเข้าแร่ยูเรเนียมจากรัสเซีย เพื่อคว่ำบาตรที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน
การเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เดินหน้าคว่ำบาตรบริษัทโรซาตอม (Rosatom) ซึ่งเป็นผู้จัดหาเชื้อเพลิงและเทคโนโลยีพลังงานนิวเคลียร์รายใหญ่ให้กับโรงไฟฟ้าทั่วโลก โดยก่อนหน้านี้สหรัฐได้ออกมาตรการระงับการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียไปแล้ว อาทิ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
สำหรับความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาคเช้านี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ (Ultraloose Monetary Policy ) ในการประชุมวันนี้ตามคาด เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายของ BOJ และวิกฤตการณ์ยูเครนได้เพิ่มความไม่แน่นอนให้กับแนวโน้มเศรษฐกิจของญี่ปุ่น
ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นการประชุมระยะเวลาสองวันในวันนี้ คณะกรรมการ BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ประมาณ 0%