ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (18 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน และขานรับการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐและประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 454.60 จุด เพิ่มขึ้น 4.11 จุด หรือ +0.91%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,620.24 จุด เพิ่มขึ้น 7.72 จุด หรือ +0.12%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,413.09 จุด เพิ่มขึ้น 25.03 จุด หรือ +0.17% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,404.73 จุด เพิ่มขึ้น 19.39 จุด หรือ +0.26%
ตลาดได้แรงหนุนจากการเจรจาสันติภาพเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน ซึ่งได้ช่วยหนุนตลาดขึ้นมากที่สุดในรอบสัปดาห์นี้นับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2563
นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนและปธน.สียังได้หารือกันทางวิดีโอคอลในวันศุกร์เกี่ยวกับการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน และสื่อจีนรายงานว่า ปธน.สีได้เน้นย้ำว่า ความขัดแย้งดังกล่าวนั้นไม่เป็นประโยชน์กับฝ่ายใด
ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า รัสเซียได้ชำระดอกเบี้ยพันธบัตรสกุลดอลลาร์ 2 ชุดวงเงิน 117 ล้านดอลลาร์ ซึ่งได้คลายความวิตกเกี่ยวกับความสามารถของรัสเซียในการชำระหนี้ หลังจากที่ถูกคว่ำบาตรโดยชาติตะวันตก
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำตลาดปรับตัวขึ้น
หุ้นโวดาโฟน พุ่งขึ้น 1.3% หลังรอยเตอร์รายงานว่า กองทุนโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกเข้าซื้อหุ้นโวดาโฟนเพื่อลงทุนในบริษัทแวนเทจ ทาวเวอร์สซึ่งเป็นบริษัทผลิตเสาโทรคมนาคมมูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยหุ้นแวนเทจ ทาวเวอร์ส พุ่ง 10.8%
แต่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง 0.8% สวนทางตลาด หลังจากราคาน้ำมันดิบลดลงสู่ราว 106 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันศุกร์ จากระดับสูงถึง 139 ดอลลาร์/บาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา