ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกใกล้ระดับสูงสุดของวันศุกร์ (18 มี.ค.) และปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี เนื่องจากนักลงทุนขานรับการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน และการที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) บ่งชี้ถึงแนวโน้มที่ระมัดระวังในการคุมเข้มนโยบายการเงินในอนาคต
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,404.73 จุด เพิ่มขึ้น 19.39 จุด หรือ +0.26% โดยดัชนีปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 สัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2563
ตลาดได้แรงหนุนจากการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน แม้ยังไม่มีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมก็ตาม
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐและประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในวันศุกร์ (18 มี.ค.) โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดกั้นไม่ให้จีนให้การสนับสนุนรัสเซียในการบุกโจมตียูเครน
หุ้นเกล็นคอร์ปรับตัวขึ้น 0.9% หลังเอชเอสบีซีแนะนำซื้อหุ้นดังกล่าว
หุ้นเท็ด เบเคอร์ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกด้านแฟชั่น พุ่งขึ้น 17.1% หลังบริษัทไซคามอร์ พาร์ตเนอร์สของสหรัฐเปิดเผยว่า กำลังเจรจาเพื่อเสนอซื้อหุ้นของเท็ด เบเคอร์
หุ้นโวดาโฟน พุ่งขึ้น 1.3% หลังรอยเตอร์รายงานว่า กองทุนโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกเข้าซื้อหุ้นโวดาโฟนเพื่อลงทุนในบริษัทแวนเทจ ทาวเวอร์สซึ่งเป็นบริษัทผลิตเสาโทรคมนาคมมูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยหุ้นแวนเทจ ทาวเวอร์ส พุ่ง 10.8%