ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนบวกสวนทางตลาดหุ้นสหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังมีรายงานข่าวว่า ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) กำลังพิจารณาคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียตามรอยสหรัฐ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,242.88 จุด พุ่งขึ้น 415.45 จุด หรือ +1.55%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 21,461.33 จุด เพิ่มขึ้น 239.99 จุด หรือ +1.13% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,258.10 จุด เพิ่มขึ้น 4.41 จุด หรือ +0.14%
ภาวะการซื้อขายในภูมิภาคได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่พุ่งขึ้น หลังมีรายงานข่าวว่า ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) กำลังพิจารณาคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียตามรอยสหรัฐ โดยในสัปดาห์นี้บรรดาผู้นำใน EU จะร่วมหารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เกี่ยวกับนโยบายที่จะใช้ตอบโต้รัสเซียซึ่งใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครนเมื่อเดือนที่แล้ว
เจ้าหน้าที่ทูตอาวุโสของ EU เปิดเผยว่า EU กำลังอยู่ในระหว่างกำหนดมาตรการคว่ำบาตรรอบที่ 5 ต่อรัสเซีย โดยรัฐมนตรีต่างประเทศของ EU ได้ร่วมหารือกันเมื่อวานนี้ ก่อนที่จะเปิดฉากการประชุมร่วมกับปธน.ไบเดนในวันพฤหัสบดีที่ 24 มี.ค. รวมถึงชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) 30 ประเทศ, ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป และกลุ่มประเทศ G7 ซึ่งรวมถึงญี่ปุ่น
รายงานดังกล่าวส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 7.42 ดอลลาร์ หรือ 7.09% ปิดที่ 112.12 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 7.69 ดอลลาร์ หรือ 7.12% ปิดที่ 115.62 ดอลลาร์/บาร์เรล
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาความเคลื่อนไหวในตลาด หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะคุมเข้มนโยบายการเงินมากขึ้น ด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดเงินเฟ้อ โดยถ้อยแถลงของนายพาวเวลยังสอดคล้องกับเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนที่ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ซึ่งรวมถึงนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด และนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์