ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (25 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์สงครามในยูเครน และประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินทั่วโลก
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 453.55 จุด เพิ่มขึ้น 0.48 จุด หรือ +0.11%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,553.68 จุด ลดลง2.09 จุด หรือ -0.03%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,305.76 จุด เพิ่มขึ้น 31.97 จุด หรือ +0.22% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,483.35 จุด เพิ่มขึ้น 15.97 จุด หรือ +0.21%
หุ้นกลุ่มพลังงาน, วัสดุพื้นฐาน และเทคโนโลยี ปรับตัวขึ้น แต่หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มปลอดภัย ปรับตัวลง
แต่ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง 0.2% ในสัปดาห์นี้ ขณะที่ราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้นจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียนั้นทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อและการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับการขาดแคลนพลังงาน หลังรัสเซียเตือนว่า ผู้ซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียต้องชำระเงินเป็นสกุลรูเบิล
หุ้นกลุ่มวัสดุพื้นฐานของยุโรปปรับตัวขึ้น 20% แล้วในปีนี้ และดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 15%
นางเจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐเตือนในวันศุกร์ว่า วิกฤตยูเครนมีแนวโน้มที่จะลดแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันหลังสถาบันไอโฟเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีลดลงในเดือนมี.ค. เนื่องจากสถานการณ์ด้านห่วงโซ่อุปทานย่ำแย่ลงซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันในระดับสูง แต่เศรษฐกิจในไตรมาสแรกยังไม่เผชิญกับภาวะถดถอย
ส่วนหุ้นรายตัวที่ปรับตัวขึ้นได้แก่ หุ้นเทเลคอม อิตาเลีย บวก 1.8% หลังแหล่งข่าวเปิดเผยว่า บริษัทซีวีซี แคปิตอล พาร์ตเนอร์ส และนักลงทุนเอกชนเตรียมเข้าลงทุนในธุรกิจบริการของเทเลคอม อิตาเลีย
หุ้นเจนเนอราลี่ ปรับตัวขึ้น 1.9% โดยได้แรงหนุนจากแผนการใหม่ของบริษัทที่มุ่งเป้าไปที่การขยายตัวเพิ่มขึ้น