ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผันผวนในวันนี้ หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลงกว่า 3% เนื่องจากเมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านการเงินของจีน ประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโควิด-19 ขณะที่ตลาดบางส่วนขานรับปัจจัยบวกจากกำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนพุ่งขึ้น 5% ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,084.08 จุด ลดลง 65.76 จุด หรือ -0.23%, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,185.17 จุด ลดลง 27.07 จุด หรือ -0.84% ส่วนดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,422.20 จุด เพิ่มขึ้น 17.32 จุด หรือ +0.08%
ในช่วงเช้าวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ร่วงลง 4.01 ดอลลาร์ หรือ 3.52% แตะที่ระดับ 109.89 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเมืองเซี่ยงไฮ้ ประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 โดยข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
ทั้งนี้ การล็อกดาวน์จะแบ่งเป็น 2 ส่วน และจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ (28 มี.ค.) โดยการล็อกดาวน์ส่วนแรกจะมีขึ้นตั้งแต่เวลา 05.00 น.ของวันที่ 28 มี.ค.ไปจนถึงเวลา 05.00 น.ของวันที่ 1 เม.ย. โดยครอบคลุมพื้นที่ฝั่งตะวันออกและทางตอนใต้ของลุ่มแม่น้ำหวงผู่ เพื่อทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนเป็นวงกว้าง และการล็อกดาวน์ส่วนที่สองจะมีขึ้นตั้งแต่เวลา 03.00 น.ของวันที่ 1 เม.ย.ไปจนถึงเวลา 03.00 น.ของวันที่ 5 เม.ย. โดยครอบคลุมพื้นที่เขตแมืองทางฝั่งตะวันตกของลุ่มแม่น้ำหวงผู่
อย่างไรก็ดี ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมพุ่งขึ้น 5% ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2565 เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 1.16 ล้านล้านหยวน โดยได้ปัจจัยบวกจากผลกำไรที่แข็งแกร่งของกลุ่มผู้ผลิตพลังงานและวัตถุดิบ อันเนื่องมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น
ข้อมูลของ NBS ระบุว่า กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมจีนในช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ ขยายตัวได้ดีกว่าในเดือนธ.ค. 2564 ที่ปรับตัวขึ้น 4.2% ทั้งนี้ ข้อมูลกำไรของภาคอุตสาหกรรมจีนได้จากการสำรวจบริษัทขนาดใหญ่ที่มีรายได้จากธุรกิจหลักมากกว่า 20 ล้านหยวนต่อปี