ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้
ณ เวลา 20.19 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 38 จุด หรือ 0.11% สู่ระดับ 34,721 จุด
ตลาดการเงินถูกกดดัน หลังตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve ในวันนี้ ซึ่งเป็นภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าพันธบัตรระยะยาว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 5 ปี อยู่สูงกว่าพันธบัตรอายุ 30 ปีเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 5 ปีพุ่งขึ้นสู่ระดับ 2.6361% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.6004%
ก่อนหน้านี้ เหตุการณ์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 5 ปีพุ่งขึ้นสูงกว่าพันธบัตรอายุ 30 ปีได้เกิดขึ้นในปี 2549 ก่อนที่จะเกิดวิกฤตการเงินทั่วโลกในอีกเพียงไม่กี่ปีถัดมา
อย่างไรก็ดี ล่าสุด ณ เวลา 19.50 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 5 ปีร่วงลงสู่ระดับ 2.534% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.556% ซึ่งถือเป็นการยุติภาวะ inverted yield curve ในวันนี้
ที่ผ่านมา ภาวะ inverted yield curve มักเกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนพากันเทขายพันธบัตรระยะสั้น และเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในระยะสั้น
นักวิเคราะห์ระบุว่า นักลงทุนกำลังมีความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ท่ามกลางเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น หลังรัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนในเดือนที่แล้ว
ตลาดจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2564 ของสหรัฐในวันพุธนี้ รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์