ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นในวันอังคาร (29 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสัญญาณความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนเพื่อยุติความขัดแย้งที่ดำเนินมาหลายสัปดาห์
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,537.25 จุด เพิ่มขึ้น 64.11 จุด หรือ +0.86%
หุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคนำตลาดปรับตัวขึ้น อาทิ หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์, พรูเดนเชียล, ดิอาจีโอ และยูนิลีเวอร์ ช่วยหนุนตลาดขึ้นมากที่สุด
นักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่น หลังรมช.กลาโหมของรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียได้ตัดสินใจลดปฏิบัติการทางทหารรอบกรุงเคียฟและเชอร์นิฮีฟในยูเครน หลังการเจรจาระหว่างคณะเจรจาของรัสเซียและยูเครนในอิสตันบูล ขณะที่ผู้เจรจาของยูเครนเปิดเผยว่า ยูเครนเสนอใช้สถานะที่เป็นกลางเพื่อแลกกับการรับประกันด้านความมั่นคงในการเจรจารอบล่าสุดกับรัสเซีย โดยจะไม่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางทหารหรือจัดตั้งฐานทัพทหาร
หุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการที่พุ่งขึ้น 4.4% ช่วยหนุนตลาดด้วย
หุ้นรายตัวที่ช่วยหนุนตลาดได้แก่ หุ้นโพลีเมทัล พุ่งขึ้น 39.5% หลังเปิดเผยว่า บริษัทกำลังพิจารณาทางเลือกต่าง ๆ เพื่อหนุนมูลค่าผู้ถือหุ้น หลังวิกฤตยูเครนส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น
แต่หุ้นกลุ่มน้ำมัน อาทิ บีพีและเชลล์ ปรับตัวลงมากกว่า 1.9% หลังราคาน้ำมันลดลง
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเหมืองโลหะพื้นฐานและโลหะมีค่าปรับตัวลงด้วยตามราคาโลหะที่ลดลง
หุ้นบาร์เคลยส์ ร่วง 2.5% หลังนักลงทุนรายใหญ่รายหนึ่งเทขายหุ้นบาร์เคลยส์มูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์