ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 27,893.92 จุด ร่วงลง 358.50 จุด หรือ -1.27%, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,245.22 จุด เพิ่มขึ้น 41.29 จุด หรือ +1.29% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 22,180.69 จุด เพิ่มขึ้น 253.06 จุด หรือ +1.15%
นักลงทุนซึมซับปัจจัยบวกหลังจากที่นายเมฟลุต คาวูโซกลู รมว.ต่างประเทศตุรกีกล่าวว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กรุงอิสตันบูลเมื่อวานนี้ มีความคืบหน้ามากที่สุดนับตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายได้เริ่มการเจรจาเป็นต้นมา พร้อมกับกล่าวว่า รมว.ต่างประเทศของรัสเซียและยูเครนจะหารือกันในโอกาสต่อไปเกี่ยวกับประเด็นที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ก่อนที่ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และปธน.โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน จะพบปะกันในที่สุด
ด้านสำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานโดยอ้างกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า รัสเซียจะลดปฏิบัติการทางทหาร "ลงอย่างมาก" รอบกรุงเคียฟ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของยูเครน รวมทั้งเมืองเชอร์นิฮิฟ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความไว้วางใจระหว่างรัสเซียและยูเครน และเพื่อเอื้ออำนวยต่อการเจรจาสันติภาพในครั้งต่อไปของทั้งสองฝ่าย
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่รายงานแล้วนั้น รัฐบาลญี่ปุ่นเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.พ.ลดลง 0.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน เนื่องจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจภาคบริการ นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวยังอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาสแรกปีนี้ด้วย