ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ (30 มี.ค.) หลังจากบวกติดต่อกัน 3 วัน ขณะที่นักลงทุนชะลอการเข้าซื้อหุ้นเพื่อดูสถานการณ์ในยูเครน หลังตลาดทะยานขึ้นเมื่อวันอังคารขานรับการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีความคืบหน้า
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 460.19 จุด ลดลง 1.90 จุด หรือ -0.41%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,741.59 จุด ลดลง 50.57 จุด หรือ -0.74%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,606.05 จุด ลดลง 214.28 จุด หรือ -1.45% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,578.75 จุด เพิ่มขึ้น 41.50 จุด หรือ +0.55%
ตลาดปรับตัวลงเนื่องจากนักลงทุนกลับมากังวลกับสถานการณ์ในยูเครน หลังมีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียได้โจมตีเขตชานเมืองของกรุงเคียฟ และอีกเมืองหนึ่งที่ถูกปิดล้อมในภาคเหนือของยูเครนในวันพุธ หลังจากที่รัสเซียเพิ่งให้สัญญาเมื่อวันอังคารว่าจะลดปฏิบัติการทางทหารในยูเครน
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจและคำเตือนจากบรรดาผู้กำหนดนโยบายที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของยุโรปได้ถูกกดดันเพิ่มขึ้นจากสงครามในยูเครน โดยการขยายตัวทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก, ความเชื่อมั่นลดลง และเงินเฟ้อพุ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวอยู่ในแดนบวก โดยกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 2.4% และ 3.3% ตามลำดับ หลังราคาน้ำมันและโลหะดีดตัวขึ้น
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 4.7% แล้วในเดือนนี้ ขณะที่กลุ่มเหมืองแร่ พุ่งขึ้นมากกว่า 6%
หุ้นไบออนเทค ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด โดยพุ่งขึ้น 5.6% หลังเปิดเผยว่า บริษัทได้ขยายโครงการทดลองทางคลินิกเพื่อพัฒนาวัคซีนใหม่ในการรับมือกับไวรัสโควิด-19สายพันธุ์โอมิครอน และได้รายงานผลกำไรเพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายวัคซีนรุ่นแรก