ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าผันผวน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบโลกดิ่งลงในการซื้อขายตามเวลาในภูมิภาคเช้านี้ เนื่องจากสหรัฐพิจารณาระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองเพื่อลดความร้อนแรงของราคา
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,809.97 จุด ลดลง 217.28 จุด หรือ -0.78%, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,256.14 จุด ลดลง 10.46 จุด หรือ -0.32% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,262.16 จุด เพิ่มขึ้น 30.13 จุด หรือ +0.14%
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังพิจารณาที่จะระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงหลายเดือนข้างหน้า เพื่อสกัดราคาน้ำมัน
รายงานดังกล่าวส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ร่วงลง 3.84% มาอยู่ที่ 103.68 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ร่วงลง 3.46% มาอยู่ที่ 109.52 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายช่วงเช้านี้ตามเวลาภูมิภาค
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่รายงานไปแล้วนั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2564 ขยายตัว 6.9% ซึ่งเท่ากับตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 แต่ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 7.0% และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 7.1%
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวดาวโจนส์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 460,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งน้อยกว่าในเดือนก.พ.ที่พุ่งขึ้น 678,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนมี.ค.จะลดลงสู่ระดับ 3.7%
ขณะเดียวกัน ตลาดในภูมิภาคยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่มีกำหนดเปิดเผยวันนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมี.ค.จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS)