ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันพฤหัสบดี (31 มี.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์สงครามในยูเครน แต่ตลาดยังสามารถปรับตัวขึ้นได้เป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกัน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,515.68 จุด ลดลง 63.07 จุด หรือ -0.83% โดยเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงตามแนวโน้มการปรับลดความเสี่ยงทั่วโลก เนื่องจากความเชื่อมั่นของตลาดเกี่ยวกับการเจรจาสันติภาพได้จางหายไป หลังประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครนเปิดเผยว่า กองกำลังของเขากำลังเตรียมรับมือการโจมตีครั้งใหม่ของรัสเซียในภาคตะวันออกเฉียงใต้
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียเปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า เขาได้ลงนามในคำสั่งระบุให้ผู้ซื้อต่างชาติต้องจ่ายค่าก๊าซเป็นเงินรูเบิลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.นี้ และจะยุติสัญญาหากไม่มีการจ่ายเงินเป็นรูเบิล
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบ โดยหุ้นบีพีและหุ้นเชลล์ ปรับตัวลง 1.9% และ 0.1% ตามลำดับ
หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ ยูนิลีเวอร์, บริติช อเมริกัน โทแบคโค และดิอาจีโอ ปรับตัวลงมากที่สุด