ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก รับแรงซื้อหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (5 เม.ย.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขายและจับตาสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนอย่างใกล้ชิด

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 463.07 จุด เพิ่มขึ้น 0.88 จุด หรือ +0.19%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,613.72 จุด เพิ่มขึ้น 54.80 จุด หรือ +0.72% , ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,645.51 จุด ลดลง 85.86 จุด หรือ -1.28% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,424.36 จุด ลดลง 93.80 จุด หรือ -0.65%

หุ้นกลุ่มสาธารณปโภคดีดตัวขึ้นและเป็นปัจจัยหนุนบรรยากาศการซื้อขายโดยรวมในตลาดหุ้นยุโรป โดยหุ้นเวสตัส วินด์ ซิสเต็มส์ บริษัทผู้ผลิตกังหันลมรายใหญ่สัญชาติเดนมาร์ก พุ่งขึ้น 8.6% หลังจากนักวิเคราะห์ของเครดิตสวิสได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเวสตัสขึ้นสู่ระดับ "Outperform" จากระดับ "Underperform" เนื่องจากแนวโน้มการหันมาใช้พลังงานลมแทนพลังงานฟอสซิล

ส่วนหุ้นตัวอื่น ๆ ในกลุ่มสาธารณูปโภคนั้น หุ้นซีเมนส์ กาเมซา รีนิวเอเบิล เอนเนอร์จี และหุ้นอิเลีย กรุ๊ป พุ่งขึ้น 6.8% และ 5.6% ตามลำดับ

หุ้นแอสตร้าเซนเนก้า และหุ้นแกล็กโซสมิทไคลน์ (GSK) พุ่งขึ้น 1.9% และ 3.1% ตามลำดับ โดยหุ้น GSK ได้รับปัจจัยหนุนจากการที่นักวิเคราะห์ของบริษัทเจฟเฟอรีส์ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้น

นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยล่าสุด ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะใช้ความระมัดระวังมากขึ้นในการส่งออกอาหารในปีนี้ โดยเฉพาะต่อประเทศที่มีนโยบาย "ไม่เป็นมิตร" ต่อรัสเซีย

ทั้งนี้ รัสเซียเป็นประเทศส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยสามารถส่งออกจำนวน 38.4 ล้านตันในปีการเกษตรที่แล้ว ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 2564

ทางด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ได้เรียกร้องให้สหประชาชาติและประชาคมโลกเข้าแทรกแซงเหตุการณ์ความรุนแรงที่กำลังเกิดขึ้นในยูเครน และสอบสวนการสังหารหมู่พลเรือนโดยกองทัพรัสเซีย ซึ่งถือเป็นการก่ออาชญากรรมสงครามที่โหดร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2