ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนลบตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เผยรายงานการประชุมเดือนมี.ค. ที่ระบุว่า กรรมการเฟดเห็นพ้องที่จะปรับลดขนาดของงบดุลและเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 26,803.34 จุด ร่วงลง 546.96 จุด หรือ -2.00%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 21,791.30 จุด ลดลง 289.22 จุด หรือ -1.31% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,251.06 จุด ลดลง 32.36 จุด หรือ -0.99%
เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 15-16 มี.ค. ซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดเห็นพ้องที่จะปรับลดขนาดงบดุลลงเดือนละ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์อย่างเร็วที่สุดในเดือนพ.ค.นี้ นอกจากนี้ กรรมการเฟดหลายคนยังสนับสนุนให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% จำนวนหนึ่งหรือสองครั้งในการประชุมวันข้างหน้า หากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงสูงขึ้น
รายงานการประชุมเฟดถือเป็นการตอกย้ำมุมมองของนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดซึ่งกล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเป็นระบบ และเร่งปรับลดขนาดงบดุลจากระดับสูงเกือบ 9 ล้านล้านดอลลาร์ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนพ.ค. เนื่องจากขณะนี้เงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สูงเกินไป
นักลงทุนยังจับตาทิศทางหุ้นของบริษัท ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ โค หลังมีการรายงานในวันนี้ว่า บริษัทมีผลกำไรจากการดำเนินงานทะยานขึ้นราว 50% เทียบรายไตรมาส ทำสถิติผลกำไรไตรมาส 1 สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2561 และปรับตัวขึ้นสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ เนื่องจากความต้องการใช้งานเซมิคอนดักเตอร์ที่แข็งแกร่งได้ช่วยหนุนให้ราคาสูงขึ้น
สำหรับการเปิดเผยกำไรขั้นต้นนั้น ผลกำไรของซัมซุงในไตรมาส 1/2565 อยู่ที่ 14.1 ล้านล้านวอน (1.16 หมื่นล้านดอลลาร์) เทียบกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 13.3 ล้านล้านวอน ส่วนรายได้มีแนวโน้มขยายตัว 18% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า แตะที่ 77 ล้านล้านวอน ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดเช่นกัน
นักวิเคราะห์ระบุว่า รายได้ของซัมซุงยังได้รับแรงหนุนจากการยอดขายสมาร์ตโฟนที่แข็งแกร่งในไตรมาสดังกล่าว รวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในโรงงานผลิตชิปของบริษัทคู่แข่งอย่าง NAND Flash