ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี (7 เม.ย.) ขณะที่ตลาดยังคงปรับตัวผันผวน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมซึ่งบ่งชี้ถึงแผนการคุมเข้มนโยบายการเงิน และสงครามในยูเครนยังคงดำเนินต่อไป
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 455.02 จุด ลดลง 0.95 จุด หรือ -0.21%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,461.68 จุด ลดลง 37.15 จุด หรือ -0.57%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,078.15 จุด ลดลง 73.54 จุด หรือ -0.52% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,551.81 จุด ลดลง 35.89 จุด หรือ -0.47%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟด และการคว่ำบาตรครั้งใหม่ของสหรัฐต่อรัสเซีย ซึ่งทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อขายหุ้น
หุ้นกลุ่มน้ำมันนำตลาดปรับตัวลง โดยลดลง 1.6% และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ลบ 1.0%
หุ้นเชลล์ร่วงลง 2.1% หลังเปิดเผยว่าจะลดมูลค่าทางบัญชีลงถึง 5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก อันเป็นผลจากการตัดสินใจถอนธุรกิจออกจากรัสเซีย ซึ่งสูงกว่าที่เปิดเผยก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในยูโรโซน หลังผลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่าเงินเฟ้อในยูโรโซนจะยังคงอยู่ที่ระดับสูงในช่วงที่เหลือของปีนี้
ส่วนหุ้นของฝรั่งเศสปรับตัวลงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกในวันที่ 10 เม.ย.นี้ ซึ่งผลสำรวจบ่งชี้ว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ยังมีแนวโน้มชนะการเลือกตั้ง
หุ้นกลุ่มปลอดภัย ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด อาทิ กลุ่มเฮลท์แคร์ พุ่งขึ้น 1.4% ขณะที่กลุ่มก่อสร้างและเคมีภัณฑ์ เพิ่มขึ้น 0.3% และ 0.4% ตามลำดับ