ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (8 เม.ย.) ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกในวันอาทิตย์นี้ (10 เม.ย.) นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาแนวโน้มการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และสถานการณ์เกี่ยวกับยูเครน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 460.97 จุด เพิ่มขึ้น 5.95 จุด หรือ +1.31%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,548.22 จุด เพิ่มขึ้น 86.54 จุด หรือ +1.34%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,283.67 จุด เพิ่มขึ้น 205.52 จุด หรือ +1.46% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,669.56 จุด เพิ่มขึ้น 117.75 จุด หรือ +1.56%
นักลงทุนยังคงจับตาผลกระทบจากวิกฤตยูเครน-รัสเซีย โดยสหภาพยุโรปได้อนุมัติมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ ซึ่งรวมถึงการห้ามนำเข้าถ่านหินจากรัสเซีย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังให้ความสนใจกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกในวันอาทิตย์นี้ (10 เม.ย.) โดยผลสำรวจบ่งชี้ว่านายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน และนางมารีน เลอ เปน คู่แข่งตัวเก็งมีคะแนนนิยมสูสีกัน ซึ่งผู้ที่มีคะแนนสูงสุดสองคนจะไปแข่งรอบคัดเลือกในวันที่ 24 เม.ย.
หุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์นำตลาดปรับตัวขึ้น ขณะที่หุ้นทุกกลุ่มปิดตลาดในแดนบวก โดยหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ พุ่งขึ้น 3.2%
หุ้นแบงโก บีพีเอ็ม ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของอิตาลี พุ่งขึ้น 14.1% หลังธนาคารเครดิต อากริโคลของฝรั่งเศสเปิดเผยว่า ได้ซื้อหุ้น 9.2% ในแบงโก บีพีเอ็ม
หุ้นรายตัวที่ปรับตัวขึ้นรวมถึงหุ้นแอตแลนเทีย ซึ่งเป็นกลุ่มสาธารณูปโภคของอิตาลีพุ่งขึ้น 3.7% หลังมีรายงานว่าบริษัทเอดิซิโอเน (Edizione) ผู้ถือหุ้นรายใหญ่และบริษัทแบล็คสโตนอาจเสนอซื้อหุ้นแอตแลนเทียที่ราคา 24 ยูโรต่อหุ้นในช่วงเทศกาลอีสเตอร์