ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงในวันจันทร์ (11 เม.ย.) เนื่องจากข้อมูลบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจอังกฤษชะลอตัวลงมากกว่าคาดในเดือนก.พ. ซึ่งเพิ่มความวิตกเกี่ยวกับภาวะค่าครองชีพที่ย่ำแย่ลง
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,618.31 จุด ลดลง 51.25 จุด หรือ -0.67%
สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า การเติบโตของเศรษฐกิจอังกฤษในเดือนก.พ. ชะลอตัวลงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดย ONS ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เดือนก.พ.ของอังกฤษ เพิ่มขึ้น 0.1% ลดลงจากระดับ 0.8% ในเดือนม.ค. และต่ำกว่าผลสำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่คาดว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะขยายตัว 0.3%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงจากระดับแข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 2 เดือน
อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ยังคงบวกขึ้นได้มากกว่า 3% แล้วในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันและราคาโลหะเพิ่มขึ้นหลังเกิดสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน และธนาคารกลางอังกฤษปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ เงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์มีแนวโน้มช่วยหนุนดัชนี FTSE 100 ด้วย โดยหุ้นกลุ่มส่งออกส่วนใหญ่ที่มีรายได้เป็นดอลลาร์จะได้ประโยชน์จากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง