ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าร่วงลง โดยถูกกดดันจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้น ซึ่งฉุดหุ้นเติบโต (Growth Stocks) ร่วงลง ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อในวันนี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 26,455.97 จุด ร่วงลง 365.55 จุด หรือ -1.36%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 21,102.21 จุด ลดลง 106.09 จุด หรือ -0.50% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,146.11 จุด ลดลง 21.02 จุด หรือ -0.66%
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2.79% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2562 ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทั้งในเดือนพ.ค.และมิ.ย. และอัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับ 2.50-2.75% ในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งจะสูงกว่า 2.4% ซึ่งเป็นระดับที่กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่าเป็นระดับที่เป็นกลาง
นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI เดือนมี.ค.จะพุ่งขึ้น 8.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2524
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่รายงานแล้วนั้น สถาบันวิจัยเศรษฐกิจนิวซีแลนด์ (NZIER) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นภาคธุรกิจประจำไตรมาสในวันนี้ (12 เม.ย.) โดยระบุว่า ความเชื่อมั่นและอุปสงค์ของภาคธุรกิจในนิวซีแลนด์ปรับตัวลงในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจนิวซีแลนด์อย่างต่อเนื่อง
รายงานของ NZIER เปิดเผยว่า 40% ของบริษัทที่ตอบแบบสำรวจมองว่าภาวะทางธุรกิจโดยทั่วไปมีแนวโน้มย่ำแย่ลง เมื่อเทียบกับ 28% ในไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อปรับค่าตามฤดูกาล บริษัท 33% คาดว่าภาวะทางธุรกิจมีแนวโน้มย่ำแย่ลง เทียบกับ 35% ในการสำรวจความคิดเห็นในไตรมาสก่อนหน้า