ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุด ขานรับตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ ซึ่งพุ่งขึ้นสุงสุดในรอบกว่า 40 ปี
ณ เวลา 19.59 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 217 จุด หรือ 0.63% สู่ระดับ 34,436 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.5% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2524 และใกล้เคียงตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 8.4%
นอกจากนี้ ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 1.2% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2548 และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ขณะเดียวกัน ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 6.5% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2525 และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.5%
นักลงทุนมองว่าตัวเลข CPI ดังกล่าวบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อกำลังแตะระดับสูงสุด ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานเมื่อเทียบรายเดือนต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ตัวเลขเงินเฟ้อดังกล่าวไม่เปลี่ยนแปลงมุมมองของตลาดที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทั้งในเดือนพ.ค.และมิ.ย.
หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค.ตามที่ตลาดคาดไว้ ก็จะเป็นครั้งแรกที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% นับตั้งแต่ปี 2543
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ในวันพรุ่งนี้ รวมทั้งผลประกอบการธนาคารสหรัฐในสัปดาห์นี้