ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (18 เม.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยตลาดถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเน็ตฟลิกซ์ และเทสลา
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,411.69 จุด ลดลง 39.54 จุด หรือ -0.11%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,391.69 จุด ลดลง 0.90 จุด หรือ -0.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,332.36 จุด ลดลง 18.72 จุด หรือ -0.14%
ตลาดได้รับแรงกดดันหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2561 อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ พันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีถือเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น จะทำให้บริษัทต่าง ๆ เผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
หุ้นบริษัทเทคโนโลยีบางแห่งปิดตลาดอ่อนแรงลงเนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร โดยหุ้นแอปเปิล ปรับตัวลง 0.13% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ลดลง 0.96% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ขยับลง 0.12%
หุ้นชาร์ลส์ ชวาบ คอร์ปอเรชั่น (Charles Schwab Corporation) ผู้ให้บริการด้านการเงินรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 9.47% ซึ่งเป็นการร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563 หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
อย่างไรก็ดี หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 3.53% หลังธนาคารเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1/2565 ที่ระดับ 80 เซนต์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 75 เซนต์ และมีรายได้ 2.33 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 2.32 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นทวิตเตอร์ ทะยานขึ้น 7.48% ขานรับรายงานที่ว่า คณะกรรมการบริหารของทวิตเตอร์ประกาศใช้กลยุทธ์ขัดขวางไม่ให้นายอีลอน มัสก์ เข้าฮุบกิจการทวิตเตอร์ด้วยการเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท
หุ้นเทสลา ดีดตัวขึ้น 1.96% หลังมีรายงานว่า เทสลาเตรียมกลับมาเปิดโรงงานในนครเซี่ยงไฮ้อีกครั้ง หลังจากที่ปิดโรงงานดังกล่าวเป็นเวลานานเกือบ 3 สัปดาห์เนื่องจากจีนประกาศล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19
นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง เน็ตฟลิกซ์, เทสลา, ยูไนเต็ด แอร์ไลน์, อเมริกัน แอร์ไลน์, ไอบีเอ็ม, พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, อเมริกัน เอ็กซ์เพรส และเวอไรซอน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 2 จุด สู่ระดับ 77 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน โดยมีสาเหตุจากปัญหาห่วงโซ่อุปทาน สต็อกบ้านในระดับต่ำ การพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง, ราคาบ้าน และต้นทุนในการก่อสร้าง