ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี (21 เม.ย.) โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ถ่วงตลาดลง แต่หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสายการบินปรับตัวขึ้น
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,627.95 จุด ลดลง 1.27 จุด หรือ -0.02%
ตลาดถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ร่วงลง 5.1% นำโดยหุ้นแองโกล อเมริกัน ซึ่งดิ่งลง 8.8% หลังบริษัทปรับลดแนวโน้มการผลิตอันเนื่องมาจากภาวะเงินเฟ้อ
หุ้นบีเอชพี กรุ๊ป ร่วงลง 2.5% หลังรายงานการผลิตสินแร่เหล็กที่ลดลงเกินคาดในไตรมาสแรก เนื่องจากภาวะขาดแคลนแรงงานอันเนื่องมาจากการเกิดโรคโควิด-19 ระบาด
หุ้นแอนโทฟากัสตา ร่วง 7.1% หลังเปิดเผยการผลิตทองแดงในไตรมาสแรกร่วง 24% เมื่อเทียบเป็นรายปีสู่ระดับ 138,800 ตัน
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นางแคทเธอรีน แมนน์ กรรมการธนาคารกลางอังกฤษเปิดเผยว่า อัตราดอกเบี้ยอาจจะปรับตัวขึ้นต่อไป เนื่องจากอุปสงค์ของผู้บริโภคไม่มีแนวโน้มที่จะลดลงเร็วพอที่จะหยุดยั้งภาคธุรกิจจากการปรับขึ้นราคาสินค้า
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด อาทิ หุ้นยูนิลีเวอร์, ดิอาจีโอ, บริติช อเมริกัน โทแบคโค, เชลล์ และบีพี
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นวิซ แอร์ และอีซีเจ็ต พุ่ง 4.4% และ 4.9% ตามลำดับ หลังสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ของสหรัฐเปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการที่สดใส