ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนลบตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (21 เม.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนพ.ค.
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 27,033.33 จุด ร่วงลง 519.73 จุด หรือ -1.89%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 20,567.95 จุด ลดลง 114.27 จุด หรือ -0.55% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,077.80 จุด ลดลง 2.01 จุด หรือ -0.07%
บรรยากาศการซื้อขายในภูมิภาคถูกกดดันหลังจากที่นายพาวเวลได้กล่าวในการหารือเรื่องเศรษฐกิจโลกในที่ประชุมของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เมื่อคืนวานนี้ตามเวลาไทยว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมวันที่ 3-4 พ.ค.นี้
ทั้งนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า การที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐพุ่งขึ้นสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟดแล้วราว 3 เท่า ทำให้เฟดเล็งเห็นว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนพ.ค.
หลังการแสดงความเห็นของนายพาวเวล FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 97.6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนพ.ค.
สำหรับความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค กระทรวงกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสดซึ่งมีความผันผวน ปรับตัวขึ้น 0.8% ในเดือนมี.ค.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปี โดยได้แรงหนุนจากต้นทุนพลังงานและวัตถุดิบที่สูงขึ้น เนื่องจากสงครามในยูเครนและเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างรุนแรงเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ
รายงานของกระทรวงฯ ระบุว่า เพราะราคาพลังงานที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 40 ปี ทำให้ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 เมื่อเทียบเป็นรายปี และเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2563