ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 300 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวลงในคืนนี้ ต่อเนื่องจากที่ทรุดตัวลงในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 17.48 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 308 จุด หรือ 0.91% สู่ระดับ 33,420 จุด
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดวันนี้ ตามราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงกว่า 4%
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงเกือบ 1,000 จุดในวันศุกร์ ท่ามกลางความผิดหวังต่อการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน นอกจากนี้ นักลงทุนวิตกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะได้รับผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวันศุกร์ที่ 33,811.40 จุด ทรุดตัวลง 981.36 จุด หรือ 2.82%, ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,271.78 จุด ร่วงลง 121.88 จุด หรือ 2.77% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,839.29 จุด ดิ่งลง 335.36 จุด หรือ 2.55%
นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลง 1.9% ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 2.8% และดัชนี Nasdaq รูดลง 3.8% โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ส่วนดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่ 3
นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เขาสนับสนุนให้เฟดดำเนินการเร็วขึ้นเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ และระบุว่ามีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ค.
ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทั้งในเดือนพ.ค.และมิ.ย.
หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค.ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ก็จะเป็นครั้งแรกที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% นับตั้งแต่ปี 2543
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทราว 160 แห่งในดัชนี S&P 500 จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงบริษัทแอปเปิล, ไมโครซอฟท์, แอมะซอน, อัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล รวมทั้งบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ หรือเฟซบุ๊ก