ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (26 เม.ย.) หลังติดลบ 3 วันติดกัน โดยตลาดได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มทรัพยากรและกลุ่มปลอดภัยที่ปรับตัวขึ้น
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,386.19 จุด เพิ่มขึ้น 5.65 จุด หรือ +0.08% โดยฟื้นตัวจากระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.เมื่อวันจันทร์ (25 เม.ย.)
หุ้นเชลล์และหุ้นบีพี บวก 2.4% และ 2.9% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นเกล็นคอร์ บวก 3.4% และนำหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้น หลังจากบาร์เคลย์สปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นเกล็นคอร์
หุ้นกลุ่มปลอดภัย อาทิ แอสตร้าเซเนก้า, ยูนิลีเวอร์, บริติช อเมริกัน โทแบคโค และดิอาจีโอ ปรับตัวขึ้น 0.8-1% ซึ่งเป็นแรงหนุนต่อดัชนี FTSE 10
หุ้นเทย์เลอร์ วิมพีย์ ซึ่งเป็นบริษัทสร้างบ้านรายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของอังกฤษ บวก 0.5% หลังบริษัทคาดว่าจะยังคงมีอุปสงค์สำหรับที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นของตลาดถูกจำกัดจากความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่เกิดจากการล็อกดาวน์เมืองสำคัญของจีนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงความวิตกเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่าง ๆ
หุ้นรายตัวที่ปรับตัวลงรวมถึงหุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ร่วง 5.5% หลังเตือนว่าการซื้อหุ้นคืนเพิ่มขึ้นนั้นอาจจะไม่เกิดขึ้นในปีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและเศรษฐกิจที่อ่อนแอส่งผลกระทบต่อแนวโน้มผลประกอบการของธนาคาร