ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงเกือบ 100 จุด ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในคืนนี้
ณ เวลา 18.14 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 93 จุด หรือ 0.28% สู่ระดับ 32,817 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงกว่า 1,000 จุดวานนี้ ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงเกือบ 5% โดยดัชนีทั้ง 2 ทำสถิติทรุดตัวลงมากที่สุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่ปี 2563 ส่วนดัชนี S&P ร่วงลง 3.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ต้นปี
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทถูกกดดันวานนี้ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนมิ.ย. แม้นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่าเฟดยังไม่ได้พิจารณาเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงขนาดนั้นก็ตาม
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 75% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 19% เมื่อเดือนที่แล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมมากกว่า 2.00% ในปีนี้ ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นแตะระดับ 2.85% ในช่วงสิ้นปีนี้
"เห็นได้ชัดว่า นักลงทุนที่ซื้อขายสัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าไม่ได้ฟังนายพาวเวล" สำนักวิจัยดาต้าเทรคระบุในทวิตเตอร์
ส่วนนายคิม รูเพิร์ท กรรมการผู้จัดการของบริษัทแอคชั่น อิโคโนมิกส์ กล่าวว่า "ถึงแม้นายพาวเวลยืนยันว่าเฟดไม่ได้พิจารณาขึ้นดอกเบี้ย 0.75% แต่ FOMC ก็จะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และเนื่องจากสหรัฐยังคงมีการขยายตัวที่ดีในปีนี้ จึงทำให้เฟดยังคงมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป"
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในคืนนี้ ซึ่งจะบ่งชี้ภาวะตลาดแรงงานสหรัฐ และอาจมีผลต่อการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 390,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ส่วนอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 3.5%
ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 431,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 490,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.6% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.7%