ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าร่วงลง หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 25,992.68 จุด ลดลง 220.96 จุด หรือ -0.84%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 19,615.77 จุด ลดลง 208.80 จุด หรือ -1.05% ส่วนดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,063.78 จุด เพิ่มขึ้น 5.08 จุด หรือ +0.17%
ภาวะการซื้อขายในภูมิภาคถูกกดดัน หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1% แต่ต่ำกว่าระดับ 8.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2524
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.0% แต่ต่ำกว่าระดับ 6.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2525
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 3% เมื่อคืนนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่าคาด โดยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีถือเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น จะทำให้บริษัทต่าง ๆ เผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่เปิดเผยแล้วนั้น สำนักงานสถิติฟิลิปปินส์ (PSA) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 1/2565 ขยายตัว 8.3% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่าจะขยายตัว 6.8% และดีกว่าในไตรมาส 1/2564 ซึ่ง GDP หดตัวลง