ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันพฤหัสบดี (12 พ.ค.) โดยถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจอังกฤษอ่อนแอลงในเดือนมี.ค. และการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐทำให้นักลงทุนวิตกว่าจะมีการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,233.34 จุด ลดลง 114.32 จุด หรือ -1.56%
หุ้นกลุ่มน้ำมัน อาทิ บีพีและเชลล์ ร่วงลง 4.7% และ 3.3% ตามลำดับ ขณะที่กลุ่มเหมืองแร่ ร่วงลง 3.9% เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลงจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์และภาวะเศรษฐกิจถดถอย
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง 2.0% เนื่องจากแนวโน้มการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอังกฤษถ่วงหุ้นที่ปรับตัวตามวัฏจักรเศรษฐกิจ
ข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของอังกฤษหดตัวลงเกินคาด 0.1% ในเดือนมี.ค. แต่ขยายตัว 0.8% ในไตรมาสแรกของปีนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นายเดฟ แรมสเดน รองผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เปิดเผยกับบลูมเบิร์ก นิวส์ว่า BoE จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว