ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันจันทร์ (16 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์และกลุ่มทรัพยากร แม้บรรยากาศการซื้อขายได้รับผลกระทบจากการที่จีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,464.80 จุด เพิ่มขึ้น 46.65 จุด หรือ +0.63%
หุ้นกลุ่มเภสัชกรรม อาทิ แอสตร้าเซนเนก้าและแกล็กโซสมิทไคล์น รวมถึงกลุ่มน้ำมัน อาทิ เชลล์หรือบีพี หนุนตลาดปรับตัวขึ้น
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ขนาดใหญ่ อาทิ เกล็นคอร์และแอนโทฟากัสตาปรับตัวขึ้นตามราคาโลหะอุตสาหกรรม ขานรับจีนซึ่งเป็นผู้ใช้โลหะรายใหญ่ของโลก วางแผนที่จะลดข้อจำกัดด้านการควบคุมโควิด
หุ้นโวดาโฟน บวก 1.9% หลังบริษัท e& ซึ่งเป็นบริษัทเทเลคอมของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซื้อหุ้นโวดาโฟนจำนวน 9.8% มูลค่า 4.4 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายในตลาดได้รับผลกระทบจากการที่จีนเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมร่วงลงอย่างรุนแรงในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นผลจากการที่จีนสั่งล็อกดาวน์เมืองต่าง ๆ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
หุ้นกลุ่มค้าปลีก อาทิ หุ้นยูนิลีเวอร์และหุ้นเรกคิทท์ เบนคีเซอร์ ปรับตัวลง