ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันพุธ (18 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการที่เงินเฟ้อของอังกฤษพุ่งขึ้น 9% ในเดือนเม.ย.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,438.09 จุด ลดลง 80.26 จุด หรือ -1.07%
ตลาดหุ้นอังกฤษปรับตัวลง หลังบวกติดต่อกัน 3 วัน โดยนักลงทุนเทขายหุ้นออกมาท่ามกลางความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษพุ่งขึ้นรายปีสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2525 ซึ่งเป็นผลจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น
นักวิเคราะห์รายหนึ่งระบุว่า มีความเสี่ยงที่ธนาคารกลางอังกฤษจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์และทำให้เศรษฐกิจถดถอย
หุ้นมาร์สตันส์ และหุ้นมิตเชลส์ แอนด์ บัตเลอร์ส ซึ่งเป็นผู้ประกอบการผับ ร่วง 7.2% และ 1.4% ตามลำดับ หลังเตือนว่า วิกฤตค่าครองชีพ และค่าใช้จ่ายที่เกิดจากสงครามในยูเครนนั้นจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัท
หุ้น TUI ซึ่งเป็นบริษัทท่องเที่ยว ร่วง 12.9% หลังประกาศขายหุ้นเพื่อนำเงินไปจ่ายคืนรัฐบาลเยอรมนีที่มอบให้กับบริษัทในช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดสูงสุด
แต่หุ้นพรีเมียร์ ฟู้ดส์ พุ่ง 10.1% สวนทางตลาด หลังเปิดเผยว่าจะปรับขึ้นราคาสินค้าเพื่อรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น