ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (19 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนทั่วโลกวิตกเกี่ยวกับผลกระทบของเงินเฟ้อที่มีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและผลกำไรของบริษัทจดทะเบียน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,302.74 จุด ลดลง 135.35 จุด หรือ -1.82%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะที่การแข็งค่าของเงินปอนด์ถ่วงหุ้นกลุ่มส่งออกและกลุ่มสินค้าอุปโภคลงด้วย
หุ้นยูนิลีเวอร์, ดิอาจีโอ, เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ และบริติช อเมริกัน โทแบคโค ร่วงลง 1.7-5.3% ขณะที่หุ้นเทสโก้ ร่วงลงเกือบ 4.1%
หุ้นค้าปลีกปรับตัวลง หลังนักลงทุนได้เทขายหุ้นทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกของสหรัฐเมื่อวันพุธ หลังบริษัทเปิดเผยผลกำไรลดลง และราคาหุ้นร่วงลงอีก 4.9% ในวันพฤหัสบดี
การเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียนฉุดตลาดลงด้วย โดยหุ้นรอยัล เมล ร่วง 12.4% หลังเปิดเผยผลกำไรทั้งปีต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้
หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซปรับตัวลง เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกกดดันราคาน้ำมัน
นอกจากนี้ ข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของอังกฤษแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีในเดือนเม.ย. ทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบต่อผู้บริโภค และแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย