ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะฟื้นตัวขึ้นในคืนนี้ หลังจากดิ่งลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 19.07 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 301 จุด หรือ 0.96% สู่ระดับ 31,514 จุด
คาดว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะได้ปัจจัยหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเตรียมยกเลิกมาตรการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน
"ผมกำลังพิจารณาเรื่องนี้ โดยเราไม่ได้เป็นผู้กำหนดมาตรการเก็บภาษีดังกล่าว แต่เป็นรัฐบาลชุดที่แล้ว" ปธน.ไบเดนกล่าว
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 2.9%ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 3.0% และดัชนี Nasdaq ทรุดตัวลง 3.8% โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 8 ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2466 ขณะที่ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่ 7 ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2544
นักลงทุนยังคงจับตาการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัท Zoom Video Communications Inc ซึ่งเป็นผู้ให้บริการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จะเปิดเผยผลประกอบการในวันนี้
นอกจากนี้ ตลาดจับตารายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 3-4 พ.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธ เพื่อหาทิศทางอัตราดอกเบี้ยและการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) ของเฟด
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินอีก 2 ครั้ง ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค. หลังจากที่เฟดเพิ่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนพ.ค. เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2543 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี
ขณะเดียวกัน เฟดเตรียมปรับลดขนาดงบดุล โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิ.ย. ซึ่งเฟดจะลดขนาดงบดุลในวงเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และหลังจากนั้น 3 เดือน เฟดจะเพิ่มการลดขนาดงบดุลเป็น 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน