ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันอังคาร (24 พ.ค.) โดยปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลง และการคุมเข้มนโยบายการเงิน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 431.58 จุด ลดลง 4.96 จุด หรือ -1.14%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,253.14 จุด ลดลง 105.60 จุด หรือ -1.66%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,919.75 จุด ลดลง 255.65 จุด หรือ -1.80% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,484.35 จุด ลดลง 29.09 จุด หรือ -0.39%
ตลาดถูกกดดัน เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังเอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซน ปรับตัวลงสู่ระดับ 54.9 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 55.8 ในเดือนเม.ย.
หุ้นทุกกลุ่มปรับตัวลง โดยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มค้าปลีกร่วงลงนำตลาด
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ร่วงลง 2.7% ตามทิศทางหุ้นนิวยอร์ก หลังบริษัทสแนป ซึ่งเป็นเจ้าของแอปพลิเคชันสแนปแชท (Snapchat) ระบุว่า บริษัทอาจพลาดเป้าหมายทั้งในด้านรายได้และกำไรในไตรมาสปัจจุบัน พร้อมกับเตือนว่าทางบริษัทอาจชะลอการจ้างงานไปจนถึงสิ้นปีนี้เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย
หุ้นกลุ่มโซเชียลมีเดียรายใหญ่อื่น ๆ ปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นสแนปที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นแฟรงค์เฟิร์ต ร่วง 44.6%
นอกจากนี้ ความวิตกเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายการเงินเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น, ความขัดแย้งของรัสเซีย-ยูเครน และการควบคุมโรคโควิด-19 ในจีน ล้วนเป็นปัจจัยที่ยังคงกดดันตลาด
หุ้นเทเล2 (Tele2) ร่วงลง 7.9% หลังคินเนวิก (Kinnevik) ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนเทขายหุ้น 7.2% ในเทเล2
ส่วนหุ้นบาร์เคลย์ส พุ่งขึ้น 3.2% สวนทางตลาด หลังเริ่มโครงการซื้อคืนหุ้นมูลค่า 1 พันล้านปอนด์