ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันอังคาร (24 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคร่วงลงจากการคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลอังกฤษจะเก็บภาษีลาภลอย (windfall tax) จากกำไรส่วนเกินของบริษัทผลิตไฟฟ้า
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,484.35 จุด ลดลง 29.09 จุด หรือ -0.39%
ตลาดถูกกดดัน หลังเอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของสหราชอาณาจักร ปรับตัวลงสู่ระดับ 51.8 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน จากระดับ 58.2 ในเดือนเม.ย.
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคร่วงลง 2.3% โดยหุ้นบริษัทผลิตไฟฟ้า อาทิ แดรกซ์, เซนทริกา และเอสเอสอี ร่วงลง 10.9-17.5% หลังไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานว่า รัฐบาลอังกฤษวางแผนที่อาจจะเก็บภาษีลาภลอย (windfall tax) มากกว่า 1 หมื่นล้านปอนด์ (1.248 หมื่นล้านดอลลาร์) ของกำไรส่วนเกินจากบริษัทผลิตไฟฟ้า
หุ้นดับบลิวพีพี ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณา ร่วงลง 3.5% และหุ้นไอทีวี ร่วงลง 4.0% โดยถูกกดดันจากการที่บริษัทสแนปของสหรัฐ ซึ่งเป็นเจ้าของแอปพลิเคชันสแนปแชท (Snapchat) ระบุว่า บริษัทอาจพลาดเป้าหมายทั้งในด้านรายได้และกำไรในไตรมาสปัจจุบัน พร้อมกับเตือนว่าทางบริษัทอาจชะลอการจ้างงานไปจนถึงสิ้นปีนี้เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย
หุ้นรอยัล เมล ร่วงลง 3.4% หลังบริษัทพีล ฮันท์ แนะนำขายหุ้นรอยัล เมล เนื่องจากไม่มีการจ่ายเงินปันผล และการซื้อคืนหุ้นในขณะนี้