ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (30 พ.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือน โดยได้แรงหนุนจากการที่จีนผ่อนคลายการควบคุมโรคโควิด-19 และเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 446.57 จุด เพิ่มขึ้น 2.64 จุด หรือ +0.59%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,562.39 จุด เพิ่มขึ้น 46.64 จุด หรือ +0.72%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,575.98 จุด เพิ่มขึ้น 113.79 จุด หรือ +0.79% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,600.06 จุด เพิ่มขึ้น 14.60 จุด หรือ +0.19%
ทางการเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านการพาณิชย์ของจีนจะอนุญาตให้ธุรกิจต่าง ๆ เริ่มดำเนินงานตั้งแต่วันพุธที่ 1 มิ.ย.นี้ พร้อมทั้งประกาศแผนดำเนินการเพื่อหนุนเศรษฐกิจ ซึ่งสนับสนุนความหวังเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุปสงค์จากจีนซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค. โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรา ซึ่งพึ่งพาอุปสงค์อย่างมากจากจีน โดยหุ้นหลุยส์วิตตอง, หุ้นแอร์เมส, หุ้นเพอร์นอด ริคาร์ด และหุ้นเบอเบอร์รี ปรับตัวขึ้น 0.6-4.4%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหนุนตลาดพุ่งขึ้น 2.0% ด้วย แต่ปริมาณซื้อขายเบาบาง เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเนื่องในวัน Memorial Day
หุ้นเทเลคอม อิตาเลีย พุ่งขึ้น 3.1% หลังทำข้อตกลงขั้นต้นกับซีดีพีซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนของรัฐบาลอิตาลี เพื่อรวมสินทรัพย์เครือข่ายถาวรเข้ากับของบริษัทโอเพน ไฟเบอร์ ซึ่งเป็นบริษัทบรอดแบนด์ของรัฐและเป็นคู่แข่งของเทเลคอม อิตาเลีย
บรรดานักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซนในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวขึ้นอีกจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนเม.ย. ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
เยอรมนีเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 50 ปีในเดือนพ.ค.เนื่องจากราคาพลังงานและอาหารเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ตลาดคาดว่า ECB อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนก.ค.