ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันอังคาร (31 พ.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากความผันผวนของราคาน้ำมัน รวมทั้งการที่นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทุกเดือนจนกว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,990.12 จุด ลดลง 222.84 จุด หรือ -0.67%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,132.15 จุด ลดลง 26.09 จุด หรือ -0.63% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,081.39 จุด ลดลง 49.74 จุด หรือ -0.41%
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของราคาน้ำมัน WTI โดยในช่วงแรกราคาน้ำมันพุ่งขึ้นขานรับข่าวสหภาพยุโรป (EU) ระงับการนำเข้าน้ำมันบางส่วนจากรัสเซีย แต่ราคาน้ำมันร่วงลงในเวลาต่อมา หลังมีรายงานว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะระงับการมีส่วนร่วมของรัสเซียในข้อตกลงด้านการผลิตของโอเปกพลัส
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดแสดงความเห็นว่า เฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับที่รุนแรงขึ้นและรวดเร็วมากขึ้น หากอัตราเงินเฟ้อยังไม่มีแนวโน้มชะลอตัวลง พร้อมกับแนะนำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทุก ๆ ครั้งนับตั้งแต่การประชุมเดือนมิ.ย. จนกว่าเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้
ไมค์ วิลสัน นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์กล่าวว่า การแสดงความเห็นของนายวอลเลอร์ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่มีสิทธิ์ออกเสียงในการประชุมนโยบายการเงินของเฟดนั้น ทำให้ตลาดมีความกังวลว่าการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้ออาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ
หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 1.65% โดยหุ้นเชฟรอน ร่วงลง 2.03% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 1.63% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ร่วงลง 1.91% หุ้นชลัมเบอร์เกอร์ ทรุดลง 4.32%
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มวัสดุซึ่งมีความอ่อนไหวต่อแนวโน้มเศรษฐกิจร่วงลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นฮันนีเวลล์ ร่วงลง 1.39% หุ้นโบอิ้ง ลดลง 0.62% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ลดลง 0.59% หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ร่วงลง 1.44% หุ้นนูคอร์ ดิ่งลง 3.81%
หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปรับตัวลง 0.86% หุ้นเมอร์ค แอนด์ โค ร่วงลง 1.13% หุ้นโมเดอร์นา ร่วงลง 1.58% หุ้นไฟเซอร์ ร่วงลง 1.61%
อย่างไรก็ดี หุ้นบริษัทเทคโนโลยีและการสื่อสารบางรายดีดตัวขึ้น โดยหุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 1.29% หุ้นแอมะซอน ทะยานขึ้น 4.4% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 1.15%
นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันพฤหัสบดีจะเป็นการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค.จาก ADP และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์จากกระทรวงแรงงานสหรัฐ ส่วนในวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนรอดูรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด หรือ Beige Book ในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันของพฤหัสบดีตามเวลาไทย เพื่อประเมินมุมมองของเจ้าหน้าที่เฟดเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ