ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าผันผวน โดยถูกกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงในวันอังคาร (31 พ.ค.) จากความผันผวนของราคาน้ำมัน รวมทั้งการที่นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทุกเดือนจนกว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลง
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 27,472.49 จุด เพิ่มขึ้น 192.69 จุด หรือ +0.71% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 21,255.84 จุด ลดลง 159.36 จุด หรือ -0.74%
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของราคาน้ำมัน WTI โดยในช่วงแรกราคาน้ำมันพุ่งขึ้นขานรับข่าวสหภาพยุโรป (EU) ระงับการนำเข้าน้ำมันบางส่วนจากรัสเซีย แต่ราคาน้ำมันร่วงลงในเวลาต่อมา หลังมีรายงานว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะระงับการมีส่วนร่วมของรัสเซียในข้อตกลงด้านการผลิตของโอเปกพลัส
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดแสดงความเห็นว่า เฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับที่รุนแรงขึ้นและรวดเร็วมากขึ้น หากอัตราเงินเฟ้อยังไม่มีแนวโน้มชะลอตัวลง พร้อมกับแนะนำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทุก ๆ ครั้งนับตั้งแต่การประชุมเดือนมิ.ย. จนกว่าเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่รายงานแล้วนั้น ผลสำรวจซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซินระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ค.ของจีนอยู่ที่ระดับ 48.1 ซึ่งแม้ว่าเพิ่มขึ้นจากระดับ 46 ในเดือนเม.ย. แต่ดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของจีนอยู่ในภาวะหดตัว
ข้อมูลดังกล่าวของไฉซินสอดคล้องกับรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ซึ่งระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ค.อยู่ที่ 49.6 ซึ่งแม้ว่าเพิ่มขึ้นจากระดับ 47.4 ในเดือนเม.ย. แต่ดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตอยู่ในภาวะหดตัว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมการผลิต, ธุรกิจบริการ และอุตสาหกรรมการก่อสร้างนั้น ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ในเมืองสำคัญ ซึ่งรวมถึงนครเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีน
ทางด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2565 ขยายตัว 0.8% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 0.5% โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง