ดาวโจนส์ไหลไม่หยุด ล่าสุดดิ่งกว่า 200 จุด หลุด 33,000 เฟดเริ่มทำ QT

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 1, 2022 22:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดดิ่งลงกว่า 200 จุด หลุดระดับ 33,000 จุด หลังดีดตัวขึ้นในช่วงแรก ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนในวันนี้ ซึ่งเป็นวันแรกของเดือนมิ.ย.

ณ เวลา 21.34 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 32,786.91 จุด ลบ 203.21 จุด หรือ 0.62%

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นสวนทางตลาด โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก

ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 222 จุดวานนี้ โดยถูกกดดันจากความผันผวนของราคาน้ำมัน รวมทั้งการที่นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทุกเดือนจนกว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลง

ทั้งนี้ เฟดเริ่มใช้มาตรการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) ในวันนี้ ตามมติในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 4 พ.ค.

ในการประชุมดังกล่าว เฟดมีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% สู่ระดับ 0.75-1.00% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2543 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี

นอกจากนี้ เฟดยังเปิดเผยแผนทยอยปรับลดขนาดงบดุล โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิ.ย. ซึ่งงบดุลดังกล่าวประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและหลักทรัพย์ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน (MBS)

ทั้งนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เฟดจะลดขนาดงบดุลในวงเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน โดยจะปล่อยให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ และตราสารหนี้ MBS วงเงิน 1.75 หมื่นล้านดอลลาร์ครบอายุในแต่ละเดือนโดยไม่มีการซื้อเพิ่มเติม และตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. เฟดจะเพิ่มการลดขนาดงบดุลเป็น 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน โดยจะปล่อยให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ และตราสารหนี้ MBS วงเงิน 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ครบอายุในแต่ละเดือนโดยไม่มีการซื้อเพิ่มเติม

นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 14-15 มิ.ย. โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.50% ในการประชุมดังกล่าว รวมทั้งในการประชุมเดือนก.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ตลาดจับตาข้อมูลแรงงานสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยจะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในวันพรุ่งนี้ ส่วนในวันศุกร์จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร

นอกจากนี้ นักลงทุนรอดูรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด หรือ Beige Book ในวันนี้ เพื่อประเมินมุมมองของเจ้าหน้าที่เฟดเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ