ดาวโจนส์ดิ่งกว่า 300 จุด หลุด 33,000 กังวลเฟดขึ้นดบ.,ทำ QT ฉุดศก.ถดถอย

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 1, 2022 22:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดดิ่งลงกว่า 300 จุด หลุดระดับ 33,000 จุด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ

ณ เวลา 22.40 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 32,668.75 จุด ลบ 321.37 จุด หรือ 0.97%

หุ้นกลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มเดียวที่ปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก

ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 222 จุดวานนี้ โดยถูกกดดันจากความผันผวนของราคาน้ำมัน รวมทั้งการที่นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทุกเดือนจนกว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลง

นักลงทุนวิตกว่าการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากหดตัวลง 1.4% ในไตรมาส 1/65

นอกจากนี้ เฟดเริ่มใช้มาตรการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) ในวันนี้ ตามมติในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 4 พ.ค.

ในการประชุมดังกล่าว เฟดมีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% สู่ระดับ 0.75-1.00% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2543 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี

นอกจากนี้ เฟดยังเปิดเผยแผนทยอยปรับลดขนาดงบดุล โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิ.ย. ซึ่งงบดุลดังกล่าวประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและหลักทรัพย์ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน (MBS)

ทั้งนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เฟดจะลดขนาดงบดุลในวงเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน โดยจะปล่อยให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ และตราสารหนี้ MBS วงเงิน 1.75 หมื่นล้านดอลลาร์ครบอายุในแต่ละเดือนโดยไม่มีการซื้อเพิ่มเติม และตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. เฟดจะเพิ่มการลดขนาดงบดุลเป็น 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน โดยจะปล่อยให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ และตราสารหนี้ MBS วงเงิน 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ครบอายุในแต่ละเดือนโดยไม่มีการซื้อเพิ่มเติม

นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 14-15 มิ.ย. โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.50% ในการประชุมดังกล่าว รวมทั้งในการประชุมเดือนก.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ตลาดจับตาข้อมูลแรงงานสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยจะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในวันพรุ่งนี้ ส่วนในวันศุกร์จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร

นอกจากนี้ นักลงทุนรอดูรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด หรือ Beige Book ในวันนี้ เพื่อประเมินมุมมองของเจ้าหน้าที่เฟดเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.1 ในเดือนพ.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าดัชนีร่วงลงสู่ระดับ 54.5 จากระดับ 55.4 ในเดือนเม.ย.

ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้คำสั่งซื้อใหม่ดีดตัวขึ้น แม้ว่าดัชนีการจ้างงานร่วงลงต่ำกว่าระดับ 50 ท่ามกลางปัญหาแรงงานตึงตัวในตลาด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ