ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงในวันพุธ (1 มิ.ย.) เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกที่อ่อนแอของเยอรมนี และกิจกรรมการผลิตที่ชะลอตัวในยูโรโซน ทำให้นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่สูงเป็นประวัติการณ์
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 438.72 จุด ลดลง 4.63 จุด หรือ -1.04%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,418.89 จุด ลดลง 49.91 จุด หรือ -0.77%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,340.47 จุด ลดลง 47.88 จุด หรือ -0.33% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,532.95 จุด ลดลง 74.71 จุด หรือ -0.98%
ตลาดปรับตัวลงหลังเยอรมนีเปิดเผยยอดค้าปลีกลดลงเกินคาด 5.4% ในเดือนเม.ย. ขณะที่การขยายตัวของภาคการผลิตในยูโรโซนชะลอลงในเดือนพ.ค. เนื่องจากโรงงานต่าง ๆ เผชิญกับภาวะขาดแคลนอุปทาน, ราคาสินค้าที่ระดับสูง และอุปสงค์ที่ลดลง
การคาดการณ์ทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นถ่วงตลาดลงด้วย โดยนักเศรษฐศาสตร์ของดอยซ์แบงก์ปรับเพิ่มคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะคุมเข้มนโยบายการเงิน และคาดว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนก.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และเงินเฟ้อที่ระดับสูง ขณะที่ราคาน้ำมันพุ่งเหนือระดับ 120 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันอังคาร (31 พ.ค.) หลังจากผู้นำสหภาพยุโรป (EU) ตกลงที่จะสั่งห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียบางส่วน
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การประชุมของ ECB ในวันพฤหัสบดีที่ 9 มิ.ย.ซึ่งคาดว่าผู้กำหนดนโยบายจะพยายามบรรลุข้อตกลงที่จะเร่งปรับนโยบายการเงินให้เป็นปกติ
หุ้นกลุ่มเดินทางและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์นำตลาดปรับตัวลง