ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (2 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มสินค้าหรูหรา แต่ตลาดปรับตัวขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 441.23 จุด เพิ่มขึ้น 2.51 จุด หรือ +0.57%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,500.44 จุด เพิ่มขึ้น 81.55 จุด หรือ +1.27% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,485.17 จุด เพิ่มขึ้น 144.70 จุด หรือ +1.01%
ส่วนตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการวันที่ 2-3 มิ.ย. เนื่องในงานฉลองครองราชย์ครบ 70 ปีของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวขึ้น หลังจากร่วงลงเกือบ 2% ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ขณะที่การซื้อขายเบาบางลง เนื่องจากตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการเนื่องในวันหยุด
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราหนุนตลาดขึ้นมากที่สุด อาทิ หลุยส์วิตตอง, ลอรีอัล และเอสซีลอร์ลูซอตติกา ปรับตัวขึ้น 1.7-3.1%
การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งและข่าวเกี่ยวกับแนวโน้มการควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียนช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้นเรมี่ คอนโทรของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 4.9% หลังเปิดเผยผลกำไรทั้งปีสูงกว่าคาด รวมทั้งคาดการณ์แนวโน้มผลกำไรที่สดใสสำหรับปีนี้และปีหน้า
ส่วนหุ้นสายการบินสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ซิสเต็ม หรือ เอสเอเอส บวก 1.3% หลังมีรายงานว่า กลุ่มนักลงทุนต่างชาติกำลังพิจารณาการเข้าเทคโอเวอร์เอสเอเอส
แต่หุ้นกลุ่มน้ำมันปรับตัวลงสวนทางตลาด เนื่องจากราคาน้ำมันลดลงหลังกลุ่มโอเปกพลัสตกลงที่จะเพิ่มการผลิตเพื่อชดเชยการผลิตที่ลดลงจากรัสเซีย โดยหุ้นเชลล์ในตลาดอัมสเตอร์ดัมและหุ้นอีควินอร์ ลดลง 0.5% และ 1.9% ตามลำดับ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเยอรมนี พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี หลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้ได้สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
บรรดานักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงอัตราการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)