ดาวโจนส์พุ่ง 333 จุด ยืนเหนือ 33,000 ตลาดรีบาวด์ หลังร่วงสัปดาห์ที่แล้ว

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 6, 2022 21:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 300 จุด เหนือระดับ 33,000 จุดในวันนี้ โดยตลาดหุ้นวอลล์สตรีทฟื้นตัวขึ้น หลังจากดิ่งลงในสัปดาห์ที่แล้ว

ณ เวลา 21.12 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,232.74 จุด บวก 333.04 จุด หรือ 1.01%

การซื้อขายในตลาดได้รับแรงหนุนจากการที่จีนประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ในกรุงปักกิ่ง

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 0.9% ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยปรับตัวลง 9 ใน 10 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 1% และดัชนี Nasdaq ทรุดตัวลง 1.2% โดยดัชนีทั้ง 2 ปรับตัวลง 8 ใน 9 สัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ ซึ่งจะสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

หุ้นพลังงานเป็นกลุ่มเดียวที่ปรับตัวลงในวันนี้ ตามการร่วงลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก

หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยคาดว่าแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะช่วยหนุนผลประกอบการของสถาบันการเงิน

หุ้นกลุ่มบริษัทพลังงานโซลาร์เซลล์ของสหรัฐพุ่งขึ้นในวันนี้ หลังมีข่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เตรียมใช้อำนาจประธานาธิบดีออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวในวันนี้ต่อการนำเข้าอุปกรณ์เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ หรือแผงโซลาร์เซลล์จากไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา โดยจัดให้เป็นสินค้าปลอดภาษีนำเข้าเป็นเวลา 24 เดือน

"หากข่าวดังกล่าวได้รับการยืนยัน ก็จะถือเป็นข่าวดีสำหรับตลาดพลังงานโซลาร์เซลล์ หลังจากเผชิญความไม่แน่นอนนับตั้งแต่ที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศสอบสวนในเดือนมี.ค." นายมาร์ค สเตราส์ นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกนระบุในรายงาน

ทั้งนี้ ราคาหุ้นของบริษัท Sunrun, SunPower, Enphase Energy, SolarEdge Technology และ Array Technologies ต่างทะยานขึ้นในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทวันนี้ขานรับข่าวดังกล่าว

"การดำเนินการของท่านประธานาธิบดีเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นมาก ซึ่งภายในช่วงเวลา 2 ปีนี้ ภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐจะสามารถกลับมาติดตั้งโซลาร์เซลล์มากขึ้น และการประกาศใช้กฎหมายการผลิตเพื่อปกป้องประเทศ (PDA) จะช่วยให้อุตสาหกรรมมีการขยายตัวมากขึ้น" นางอบีเกล รอสส์ ฮอปเปอร์ ประธานสมาคมอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ (SEIA) กล่าว

แหล่งข่าวระบุว่า ปธน.ไบเดนเตรียมออกคำสั่งดังกล่าวในวันนี้ หลังได้รับการร้องเรียนจากภาคอุตสาหกรรม สมาชิกสภาคองเกรส และผู้ว่าการรัฐของสหรัฐเกี่ยวกับผลกระทบจากการที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐทำการสอบสวนการนำเข้าอุปกรณ์ดังกล่าวว่าเป็นการช่วยให้จีนหลีกเลี่ยงมาตรการทางด้านภาษีจากทางสหรัฐหรือไม่ ซึ่งหากผิดจริงจะทำให้มีการเรียกเก็บภาษีย้อนหลังสูงถึง 250%

นักลงทุนจับตาดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันศุกร์นี้ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว

นอกจากนี้ ตลาดจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 14-15 มิ.ย. โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมดังกล่าว รวมทั้งในการประชุมเดือนก.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ เฟดเริ่มใช้มาตรการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) ในเดือนมิ.ย. ตามมติในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 4 พ.ค. โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เฟดจะลดขนาดงบดุลในวงเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. เฟดจะเพิ่มการลดขนาดงบดุลเป็น 2 เท่า สู่ระดับ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ