ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (6 มิ.ย.) ขานรับข่าวจีนประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ในกรุงปักกิ่ง อย่างไรก็ดี ตลาดปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,915.78 จุด เพิ่มขึ้น 16.08 จุด หรือ +0.05%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,121.43 จุด เพิ่มขึ้น 12.89 จุด หรือ +0.31% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,061.37 จุด เพิ่มขึ้น 48.64 จุด หรือ +0.40%
กรุงปักกิ่งซึ่งเป็นเมืองหลวงของจีน ประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มบรรเทาลง โดยอนุญาตให้ประชาชนสามารถรับประทานอาหารที่ร้านได้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.) ยกเว้นเขตเฟิงไท่และบางพื้นที่ในเขตฉางผิง นอกจากนี้ ปักกิ่งยังยกเลิกคำสั่งห้ามเดินทางในพื้นที่ส่วนใหญ่เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าประชาชนที่จะเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนและเข้าพื้นที่สาธารณะจะต้องแสดงผลตรวจ PCR เป็นลบไม่เกิน 72 ชั่วโมง
ทอม เอสเซย์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเซเวนส์ รีพอร์ทกล่าวว่า การที่จีนเริ่มเปิดประเทศทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า เศรษฐกิจจีนจะกลับมาขยายตัวได้ดีอีกครั้งในไม่ช้านี้และจะทำให้ปัญหาห่วงโซ่อุปทานเริ่มบรรเทาลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจทั่วโลกรวมถึงสหรัฐและยุโรปให้ฟื้นตัวขึ้นด้วย
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นแอปเปิล บวก 0.52% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 1.99% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส พุ่งขึ้น 1.82% หุ้นแอมะซอน ปรับตัวขึ้น 1.99%
หุ้นบริษัทพลังงานโซลาร์เซลล์พุ่งขึ้น หลังมีรายงานว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมใช้อำนาจประธานาธิบดีออกคำสั่งคุ้มครองการนำเข้าอุปกรณ์เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ หรือแผงโซลาร์เซลล์จากไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา โดยจัดให้เป็นสินค้าปลอดภาษีนำเข้าเป็นเวลา 24 เดือน
ทั้งนี้ Sunrun พุ่งขึ้น 5.94% หุ้น SunPower ดีดขึ้น 2.72% หุ้น Enphase Energy พุ่งขึ้น 5.41% หุ้น SolarEdge Technology พุ่งขึ้น 2.86% และหุ้น Array Technologies ทะยานขึ้น 18%
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงกังวลว่า ปัญหาเงินเฟ้อและตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐจะผลักดันให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยนักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 14-15 มิ.ย. ซึ่งคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมดังกล่าว รวมทั้งในการประชุมเดือนก.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัทเนชันแนล ซิเคียวริตีส์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค จะเพิ่มขึ้น 8.2% ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนเม.ย.ที่ขยายตัว 8.3%