ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ (6 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และน้ำมัน หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,608.22 จุด เพิ่มขึ้น 75.27 จุด หรือ +1.00%
หุ้นเกือบทุกกลุ่มปรับตัวขึ้น โดยกลุ่มก่อสร้างบ้าน และกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นมากที่สุด
หุ้นกลุ่มน้ำมัน อาทิ หุ้นบีพีและหุ้นเชลล์ ปรับตัวขึ้น 2.9% และ 2.2% ตามลำดับ หลังราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นเหนือระดับ 120 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากการที่ซาอุดีอาระเบียปรับขึ้นราคาขายน้ำมันดิบในเดือนก.ค.
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้น 3.3% แล้วในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันและโลหะ
หุ้นรายตัวที่พุ่งขึ้นหนุนตลาดได้แก่ หุ้นเมลโรส อินดัสทรี ซึ่งผลิตชิ้นส่วนรถยนต์และเครื่องบิน ทะยานขึ้น 4.4% หลังตกลงขายธุรกิจเออร์โกตรอนให้กับกองทุนที่บริหารงานโดยบริษัทสเตอลิง กรุ๊ปของสหรัฐเป็นเงิน 650 ล้านดอลลาร์
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจในสัปดาห์นี้ไปที่การลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันในวันจันทร์, การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ และการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันศุกร์