ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,247.86 จุด ลดลง 15.94 จุด หรือ -0.49% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 21,961.60 จุด ลดลง 52.99 จุด หรือ -0.24% ส่วนดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ 28,278.45 จุด เพิ่มขึ้น 44.16 จุด หรือ +0.16%
OECD ปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้ โดยระบุถึงผลกระทบจากการทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งการปิดเมืองและท่าเรือตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีน ซึ่งกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ OECD คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.0% ในปีนี้ ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ 4.5% ในเดือนธ.ค. 2564
นอกจากนี้ OECD ยังเตือนว่า เศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่จะได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนอาหาร อันเนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ขณะที่คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 4.4% ในปีนี้ ส่วนอินเดียจะขยายตัว 6.9% และบราซิลขยายตัว 0.6%
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค.ของสหรัฐและจีนในวันศุกร์นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า ECB อาจจะส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค.และเดือนก.ย.
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงเช้านี้ สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนพ.ค.ของจีนขยายตัว 16.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าในเดือนเม.ย.ที่ปรับตัวขึ้นเพียง 3.9% และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 8%
ขณะที่การนำเข้าเดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้น 4.1% ซึ่งเป็นการขยายตัวแข็งแกร่งในรอบ 3 เดือน และแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2%
ทั้งนี้ จีนมียอดเกินดุลการค้าในเดือนพ.ค.ทั้งสิ้น 7.876 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 5.8 หมื่นล้านดอลลาร์ และมากกว่าในเดือนเม.ย.ซึ่งมียอดเกินดุลการค้า 5.112 หมื่นล้านดอลลาร์