ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 100 จุดในช่วงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงเกินคาดในเดือนพ.ค.
ณ เวลา 06.35 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 178 จุด หรือ -0.57% แตะที้ 31,181 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดครั้งใหม่ในรอบกว่า 40 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2524 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.3%
ทั้งนี้ ดัชนี CPI เดือนพ.ค.ของสหรัฐสูงกว่าระดับ 8.3% ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าระดับ 8.5% ที่ทำไว้ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2524
ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดทรุดตัวลง 880.00 จุด หรือ -2.73% แตะที่ 31,392.79 จุด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 มิ.ย.)
การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาดของสหรัฐ ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย.นี้ และจะปรับขึ้นอีก 0.50% ในเดือนก.ค. และมีโอกาสเพิ่มขึ้นที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% เช่นกันในเดือนก.ย. ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างมากเช่นนี้จะทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย